Also available in:
English
繁體中文
简体中文
한국어
Indonesia
Русский
เอาล่ะ อ่านดีๆ แล้วคิดตามนะ ฝรั่งเศสเป็นเมืองหลวงของวัฒนธรรมการรับประทานอาหารแบบสุดหรู และ ปารีสเป็นเมืองหลวงของฝรั่งเศส เพราะฉะนั้น เชฟฝรั่งเศสที่ดีที่สุดในปารีส ก็ต้องเป็นเชฟที่ดีที่สุดในโลก ถูกต้องไหม? บอกเลยว่า ฝรั่งเศสยืนหยัดและยืนหนึ่งในเรื่องของ fine dining มานานหลายทศวรรษ
ตั้งแต่ปี 1960 พ่อครัวจากทั่วโลกต่างพากันตบเท้ามาที่กรุงปารีส เพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมการทำอาหารแบบ “nouvelle cuisine” จวบจนปัจจุบันนี้ เชฟฝรั่งเศส ยังคงรักษามรดกและประเพณีการทำอาหารในรูปแบบนี้ไว้ พร้อมสร้างสรรค์เมนูอาหารใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา
เหล่านักชิมที่มาเที่ยวปารีสก็ต้องหวังอยู่แล้วแหละว่าจะได้ทานอาหารมื้อหรูรสเลิศ ทั้งในร้านอาหารระดับติดดาวมิชลินหรือไม่ก็ตาม ในบทความนี้ INSIDR จะมาแนะนำ เชฟฝรั่งเศส ฝีมือขั้นเทพในปารีส เคล็ดลับสำหรับการชิมอาหารจานเด็ดของพวกเขา และ ลายแทงร้านอาหารที่ไม่ควรพลาด
ดาวน์โหลดคู่มือตะลุยชิมที่ปารีสและพาสปอร์ตสายนักชิม 2019 ของ INSIDR เพื่อสัมผัสประสบการณ์พิเศษมากมาย ทั้งการชิมไวน์ เรียนทำมาการอง หรือลุ้นรับสิทธิ์เรียนชิมชีสฟรีอีกด้วย !
เชฟฝรั่งเศสชื่อดังก้องโลก
เชฟฝรั่งเศสหลายคนกลายเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมการรับประทานอาหารชั้นสูงของฝรั่งเศส เชฟเหล่านี้ไม่ได้มีดีแค่คิดเมนูอาหารที่สร้างสรรค์ หรือ ฝีมือขั้นเทพ เท่านั้น พวกเขายังทำหน้าที่เป็นครูฝึกสอนพ่อครัวฝรั่งเศสรุ่นใหม่ให้กลายเป็นดาว และ เพื่อยกระดับการรับประทานอาหารฝรั่งเศสให้หรูหราขึ้นไปอีกขั้น เชฟฝรั่งเศสและลูกศิษย์ของพวกเขานี่แหละ จะเป็นกลุ่มคนที่คอยสืบทอดวัฒนธรรมและชื่อเสียงในเรื่อง fine dining ของกรุงปารีสให้ดำเนินต่อไป
David Le Quellec
David Le Quellec เป็นหัวหน้าพ่อครัวใหญ่ของ มูแลงรูจ มาตั้งแต่ปี 2015 แต่เส้นทางอาชีพของเขาได้เริ่มต้นขึ้นก่อนหน้านั้นมานานมาก ย้อนไปตั้งแต่ที่เขาทำงานเป็นเชฟส่วนตัวของทหารนายพลระดับสูงของกองทัพ Le Quellec มีโอกาสได้ทำงานในร้านอาหารชั้นนำของฝรั่งเศส เช่น ร้าน Taillevent 1 ดาวมิชลิน, ร้าน Le Cinq 3 ดาวมิชลิน และร้าน Pavillon Ledoyen หนึ่งใน 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลก
ก่อนที่จะมาร่วมงานกับ มูแลงรูจ เขาเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าพ่อครัวของโรงแรม Concorde Opéra Hotel ในกรุงปารีส เชฟ David Le Quellec ได้นำประสบการณ์แบบอัดแน่น มาช่วยปรุงแต่งสร้างสรรค์เมนูอาหารจานพิเศษให้ มูแลงรูจ ซึ่งเป็นได้ผสมผสานรสชาติแบบฝรั่งเศสคลาสสิกกับเทคนิคการปรุงแต่งที่ทันสมัย
Alain Passard
Alain Passard หัวหน้าเชฟใหญ่ของร้าน L’Arpège 3 ดาวมิชลิน ซึ่งเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1986 ด้วยความสามารถในการสร้างสรรค์เมนูอาหารแบบล้ำสมัย และ การใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นเท่านั้น Passard จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเชฟที่เก่งที่สุดของฝรั่งเศสและของโลก บอกเลยว่าจิตวิญญาณความเป็นศิลปินของพ่อครัวคนนี้ได้สร้างแรงบันดาลใจผ่านเมนูอาหารของเขามาเป็นเวลาช้านาน จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมร้านอาหารของเขาถึงได้รับดาวมิชลิน 3 ดวง มาเป็นเวลา 23 ปีแล้ว ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย หากคุณอยากทำความรู้จักกับเชฟฝรั่งเศสคนนี้มากยิ่งขึ้น เราขอแนะนำให้คุณดูซีรี่สุดฮิต Chef’s Table France ของ Netflix
Hélène Darroze
Hélène Darroze ได้รับการอบรมและลับฝีมือภายใต้การดูแลของ Alain Ducasse ก่อนมาเปิดร้านอาหาร Hélène Darroze ในกรุงปารีสเป็นของตัวเอง เธอได้รับรางวัลดาวมิชลิชดวงแรกในปี 2001 ในขณะที่เธอเดินทางไปๆ มาๆ ระหว่างร้านอาหารของเธออีกแห่งที่โรงแรม Connaught Hotel ในลอนดอน Darroze เป็นเชฟรุ่นที่สี่ของครอบครัว ซึ่งเธอใช้เวลาทั้งชีวิตอยู่กับการทำงานในครัว วันนี้เธอเป็นหนึ่งในเชฟหญิงเพียงไม่กี่คนในโลกที่ได้รับดาวมิชลิน 2 ดวง ในปี 2012 จนประธานาธิบดี Nicolas Sarkozy ได้แต่งตั้งให้ Darroze เป็น Legion of Honor ระดับขั้น Chevalier (นักรบ) นอกจากนี้ยัง เธอยังเป็นแรงบันดาลใจให้ตัวละคร ‘Colette’ ในภาพยนตร์เรื่อง Ratatouille ของค่าย Pixar อีกด้วย
Yannick Alléno
ชื่อของ Yannick Alléno มักดึงความสนใจของเชฟรุ่นใหม่และเหล่านักชิมเสมอ เขาได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในตัวพ่อของการทำอาหารในฝรั่งเศส รวมถึงเป็นปรมาจารย์ที่คอยฝึกพ่อครัวดาวรุ่งรุ่นใหม่หลายๆ คนในปารีสและทั่วโลก Alléno ใช้พรสวรรค์ในด้านความคิดสร้างสรรค์พัฒนาเทคนิคการทำอาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิมให้มีความทันสมัย จนกระทั่งได้จดสิทธิบัตรสำหรับเทคนิคการทำซอสแบบ Extractions® เป็นของตัวเอง Alléno มีร้านอาหารของตัวเองอยู่ทั่วโลก ทั้งในมาราเกช โซล ดูไบ และร้าน Pavillon Ledoven 3 ดาวมิชลินในปารีส
Thierry Marx
เชฟฝรั่งเศสคนนี้เป็นดาวโดดเด่นอยู่ในวงการอาหารฝรั่งเศสมาเนิ่นนาน ก่อนที่เขาจะกลายมาเป็นผู้ช่วยเชฟที่ร้านอาหารชื่อดัง อาทิ Pavillon Ledoyen, Taillevent และ Robuchon Marx เคยทำงานในอาชีพอื่นๆ มาก่อน ไม่ว่าจะเป็น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย พนักงานคลังสินค้า หรือแม้แต่ทหารกระโดดร่ม
แต่ในวันนี้ เขาคือหนึ่งในเชฟฝรั่งเศสที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง โดยดำรงตำแหน่งหัวหน้าพ่อครัวของร้านอาหาร Sur-mesure 2 ดาวมิชลิน ที่โรงแรม Mandarin Oriental Hotel ในกรุงปารีส นอกจากนี้ Marx ยังเป็นผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จอย่างมากจากธุรกิจร้านอาหารมากกว่า 5 แห่งในฝรั่งเศสและได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับการทำอาหารอีกหลายเล่ม
เชฟฝรั่งเศสรุ่นใหม่
เชฟฝรั่งเศสรุ่นใหม่มาแรง กำลังพลิกโฉมวงการทำอาหารให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ด้วยการผสมผสานปรัชญา และ เทคนิคของเชฟฝรั่งเศสเก๋าๆ ในรอบ 50 ปีที่ผ่านมา พร้อมเพิ่มเติมความรู้และรสชาติใหม่ๆ จากต่างประเทศ ดาวดวงใหม่เหล่านี้กำลังช่วยกันพัฒนาการทำอาหารฝรั่งเศสสู่ก้าวไปอีกระดับ ที่สำคัญเชฟรุ่นใหม่ต่างก็ลงทุนเปิดร้านอาหารบรรยากาศสบายๆ ราคาเบาๆ ที่ลูกค้าทุกระดับสามารถมาสัมผัสประสบการณ์การทานอาหารแบบ fine dining รสเลิศในราคาที่ไม่เกินเอื้อม
Bertrand Grébaut
ร้าน Septime ในเขต 11 ของปารีส อยู่ในลำดับที่ 52 ของร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลก เมนูของร้านผสมผสานเทคนิคและสไตล์การทำอาหารจากครัวของร้าน L’Arpège ที่ Grébaut ได้เรียนรู้มาจาก Alain Passard รวมไปถึงประสบการณ์ที่เขาได้เก็บเกี่ยวมาจากการท่องเที่ยวในเอเชีย นอกจากนี้ Grébaut ยังเป็นคนดูแลซีฟู้ดส์บาร์ Clamato และ ไวน์บาร์ Septime la Cave ที่อยู่ในร้านอาหารหลักนี้ด้วย บอกเลยว่าคนปารีสเลิฟร้านนี้มากซึ่งการันตีด้วย 1 ดาวมิชลิน
Tomy Gousset
Tomy Gousset เชฟฝรั่งเศสที่กำลังมาแรง และเพิ่งได้รับดาวมิชลินไปหมาดจากผลงานที่ร้านอาหาร Tomy & Co. ซึ่งตั้งอยู่ในเขตที่ 7 ของกรุงปารีส เมนูของที่ร้านจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล อาหารจานเด็ดที่เราอยากแนะนำคือ gnocchi เห็ตทรัฟเฟิล แอปริคอตคั่วกับเห็ด verbena และ หน่อไม้ฝรั่งกับไข่มิโมซ่าราดซอสเปรี้ยว เราขอสรุปสั้นๆ ว่า ร้าน Tomy & Co.ได้กลายเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ดีที่สุดในปารีส ที่มาพร้อมกับบริการอาหารแบบ fine dining ในบรรยากาศสบาย ๆ ราคาเบาๆ
Philippe Bélissant
Philippe Bélissant หัวหน้าเชฟร้านอาหารติดดาวมิชลิน Cobéa ชื่อดังในเขต 14 เอาจริงๆ เลยนะ ในตอนนี้ไม่มีใครมาแรงเท่าเชฟคนนี้แล้วในฝรั่งเศส เขาได้รับรางวัล Grand Vermeil medal ซึ่งเป็นรางวัลที่ทรงเกียรติที่สุดที่มอบใช้กับเชฟฝรั่งเศสโดยกรุงปารีส เชฟดังๆ ที่เคยได้รางวัลนี้ก็มี Joêl Robuchon, Thierry Marx, Alain Ducasse, David Toutain และ Pierre Gagnaire
Julia Sedefdjian
Julia Sedefdjian เชฟชาวฝรั่งเศสที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ และ 1 ใน 3 ของเชฟหญิงชาวฝรั่งเศสที่ได้รับดาวมิชลิน Sedefdjian เริ่มต้นอาชีพเชฟเมื่ออายุเพียง 18 ปี และก็ได้รับรางวัลดาวมิชลินแรกเมื่ออายุได้ 21 ปี ที่ร้าน Les Fables de La Fontaine ปัจจุบันเธอดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าเชฟที่ร้านอาหาร BAIETA ในปารีส ที่เสิร์ฟเมนูอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ถือว่าเป็นร้านที่เหมาะกับ Sedefdjian เป็นอย่างมากเพราะเธอเกิดและเติบโดยที่เมืองนีซ อาหารจานเด็ดของร้านนี้คือ bouillabaisse และ pissaladière อาหารจานท้องถิ่นทางตอนใต้ของฝรั่งเศส
Gregory Marchand
คนในวงการอาหารฝรั่งเศสขนานนาม Gregory Marchand ว่าเป็น ‘เชฟผู้พิชิตปารีส’ Marchand เริ่มมีความสนใจในเรื่องการทำอาหารตั้งแต่ตอนเป็นเด็ดในขณะที่เขาอาศัยอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในเมืองทางตะวันตกของประเทศฝรั่งเศส เวลาผ่านไป เขาได้เข้ารับการฝึกฝนฝีมือกับ Jamie Oliver พ่อครัวชาวอังกฤษชื่อดังในลอนดอน หลังจากนั้นเขาก็ได้ย้ายกลับมาที่ฝรั่งเศสและเปิดร้าน Frenchie ในปารีสเมื่อปี 2009 ปัจจุบัน Marchand มีร้านเป็นของตัวเองถึง 3 ร้าน รวทถึงร้านขายไวน์ ขอให้คุณทำใจไว้เลยว่าคิวจองโต๊ะที่ร้านอาจจะต้องนานเป็นเดือนเลยทีเดียว
เปิดประสบการณ์ทานอาหารจากฝีมือเชฟฝรั่งเศส
เพลิดเพลินไปกับการชมโชว์ และ มื้ออาหารค่ำสุดหรู จากเชฟชาวฝรั่งเศส
สำหรับค่ำคืนสุดพิเศษที่โรงละครคาบาเร่ต์มูแลงรูจ คุณจะอิ่มหนำไปกับอาหารตาและอาหารปากในคราวเดียวกัน ร้านอาหารของมูแลงรูจได้รับการแนะนำอยู่ใน Gault & Millau คู่มือร้านอาหารชื่อดังว่าเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ดีที่สุดในปารีส ในขณะนี้ เชฟ David Le Quellec ได้จัดเมนูพิเศษสำหรับ spring-summer 2019 นี้เพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบ 130 ปี ของมูแลงรูขจ เชฟ David จะพาคุณไปลิ้มลองเมนูตับห่านเสิร์ฟพร้อมกับเยลลี่เมล่อน ปลากระพงขาวอบสมุนไพรและอาติโชคเคลือบคาราเมล ซึ่งเมนูทุกจากถูกปรุงแต่งและรังสรรค์ด้วยเทคนิคพิเศษที่เชฟ David ได้สั่งสมมาเป็นเวลายาวนาน นอกจากคุณจะได้รับประทานอาหารสุดหรูรสเลิศแล้ว ที่นี่ยังมีบริการเชมแปญให้ดื่มฟรีด้วยนะ
จองโต๊ะดินเนอร์ พร้อมร่วมชมโขว์สุดอลังการที่มูแลงรูจ ด้วยบัตรกำนัลจาก INSIDR Passport ของเรา คุณสามารถดาวน์โหลด INSIDR Passport ได้ฟรี พร้อมรับบัตรกำนัลเพื่อลัดคิวเข้าชมโชว์ด้วยช่องทางพิเศษและบริการแบบวีไอพี ในเล่มยังมีบัตรกำนัลสำหรับช้อปปิ้ง สิทธิ์เข้าร่วมเวิร์คช้อปทำน้ำหอม หรือ เข้ารับบริการแต่งหน้าได้ฟรีในปารีส
มื้อค่ำสุดหรูที่หอไอเฟล
คุณจะได้ลิ้มรสอาหารรสเลิศจากเชฟฝีมือดีของกรุงปารีส พร้อมดื่มด่ำไปกับวิวสวยๆ ของเมือง ที่ร้าน Restaurant 58 ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ของหอไอเฟล ซึ่งมีเชฟซุปเปอร์สตาร์ Thierry Marx คอยบริหารจัดการ เมนู 3 คอร์สเริ่มต้นที่ราคา 86 ยูโร รวม แขมเปญและไวน์ เมนูจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ โดยเน้นที่อาหารฝรั่งเศสแบบคลาสสิค ผสมผสานรสชาติแบบสมัยใหม่
ร้านอาหารของเชฟฝรั่งเศสชื่อดังบนแม่น้ำแซน
สำหรับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร เราขอแนะนำให้คุณจองโต๊ะทานอาหารมื้อค่ำที่ Ducasse sur Seine ร้านนี้ตั้งอยู่บนเรือที่จะพาคุณล่องไปตามแม่น้ำแซนสุดโรแมนติก ราคาอาหารเย็นเริ่มต้นที่ 100 ยูโรต่อคน ถือว่าคุ้มค่าสำหรับอาหารชั้นเลิศฝีมือของเชฟ Ducasse พร้อมชมวิวเมืองปารีส
คำแนะนำจาก INSIDR สำหรับการเตรียมตัวออกไปทานอาหารที่ร้านของเชฟฝรั่งเศสชื่อดังในปารีส
จองโต๊ะล่วงหน้า
ไม่ว่าคุณจะเลือกไปทานอาหารที่ร้านไหน อย่าลืมจองโต๊ะล่วงหน้าเด็ดขาด ร้านดังๆ เชฟดังๆ โต๊ะเต็มเร็วมาก หลายร้านมีระบบจองออนไลน์ให้บริการแล้ว คุณสามารถจองโต๊ะได้อย่างง่ายๆ และ รวดเร็ว สำหรับร้านอาหารสุดหรู Moulin Rouge และ Restaurant 58 คุณควรจะต้องจองล่วงหน้า 1 เดือน
ส่วนลดอาหารมื้อหรูของเชฟฝรั่งเศสชื่อดัง
หากคุณมีงบประมาณจำกัด เราขอแนะนำให้จองโต๊ะสำหรับมื้อกลางวัน โดยปกติแล้วอาหารมื้อกลางแบบ à la carte จะถูกกว่ามื้อเย็นมาก ที่สำคัญรสชาติและคุณภาพนั้นเหมือนกันเป๊ะ ที่สำคัญบรรยากาศของร้านแต่ละร้านในช่วงกลางวันจะมีความชิลกว่าช่วงมื้อค่ำ จึงเหมาะกับคนที่ไม่ชอบอะไรที่เป็นทางการเสียเท่าไหร่
ทานอาหารของเชฟมิชลินชื่อดังในร้านอาหารบรรยากาศแบบสบายๆ
หากคุณกำลังมองหาร้านอาหารที่มีสไตล์แบบร้านอาหารมิชลิน แต่บรรยาดูชิลๆ กว่า เราขอแนะนำ Septime la Cave ร้านลูกของ Septime ที่คุณสามารหาของทานและไวน์รสเลิศดื่มได้ในราคาเบาๆ
เชฟซุปเปอร์สตาร์ Thierry Marx ก็เพิ่งเปิดร้านอาหารเล็กๆ 2 ร้านใจกลางกรุงปารีส ได้แก่ MarXito (กูร์เม่สไตล์ฟาสฟู้ด) และ La Boulangerie ร้านเบเกอรี่
ส่วน Gregory Marchand ก็เพิ่งเปิดร้าน Frenchie-to-Go (ร้าน Frenchie เวอร์ชั่นราคาเบาๆ)
ถ้าหากคุณเป็นแฟนของเชฟ Yannick Alleno เราแนะนำให้คุณไปที่ร้าน Allenothèque ที่ตั้งอยู่ในทางเดิน Beaupassage ในเขตที่ 6
Also available in:
English
繁體中文
简体中文
한국어
Indonesia
Русский