Also available in:
English
繁體中文
简体中文
日本語
한국어
Indonesia
ถ้าคุณเป็นคนชอบไปพิพิธภัณฑ์ ยิ่งเฉพาะในยุโรปด้วยแล้ว อย่าพลาดดาวโหลดไกด์บุ๊กคู่มือท่องเที่ยวปารีสพิพิธภัณฑ์ INSIDR ฉบับภาษาไทยฟรีได้ที่นี่! Museo del Prado หรือ El Prado เอล พราโต้ ตั้งอยู่ใน Madrid ที่นี่เป็นหนึ่งในแกลอรี่ที่น่าดูชมที่สุดในสเปนเลยก็ว่าได้นะ คอลเล็กชั่นที่เลิศเลอของเขาถูกจัดไว้ในตึกยุคนีโอคลาสสิค ด้วยรูปปั้น และเสาแบบโรมันต่าง ๆ ที่นี่ถูกออกแบบด้วย Juan de Villanueva ในปี 1785 ให้กับคอลเล็กชั่นประวัติศาสตร์ชาติสเปน ต่อมากษัตริย์ Ferdinand VII ได้จัดที่นี่ให้เป็นสถานที่แห่งศิลปะที่สุดของประเทศ Museo del Prado มิวซิโอ เดล พราโต้ เปิดต่อสาธารณะเมื่อต้นศตวรรษที่ 19th แสดงแค่ภาพวาดลงสีของสเปนเท่านั้น แต่ทุกวันนี้มีหมดจ้า ขนกันมาหมด ไม่ว่าจะเป็นของสเปนเองตั้งแต่ยุค 1700s ของฝรั่งเศส และอิตาลี งาน Flemish และงานชิ้นเอกของยุโรป จากศตวรรษที่ 18th และ 19th อีกอย่างที่นี่ยังเป็นการจัดการแสดงแยกระหว่างภาพวาดลงสี ภาพวาด และรูปปั้นต่าง ๆ
คอลเล็กชั่นถาวร รวมผลงานของ Velázquez ที่มีอยู่เกือบถึง 50 ชิ้น รวมทั้งงานดังอย่าง Las Tres Gracias หรืองานน่าภูมิใจอย่าง
El Caballero de la Mano en el Pecho ผลงานของ El Greco หรือจะงานชิ้นเอกโบว์แดงใหญ่ของ Goya ก็สามารถหาดูได้กันที่นี่ ผลงาน Las Pinturas Negras (Black Paintings) ของ Goya อยู่ชั้นหนึ่งนะจ้ะ ซึ่งเขาก็สามารถถ่ายทอดเรื่องเล่าแนวดาร์ก ๆ ของยุคมืดของฝรั่งเศสออกมาได้ดีมากเลยแหละ ซึ่งคุณจะพบว่า Museo del Prado เป็นเหมือนแปรงระบายสี ที่แต้มไปทางตะวันตกของความผ่อนคลายที่ Parque del Retiro
ไฮไลท์แนะนำบนแผนที่ INSIDR กับ Museo del Prado
อยากไป Museo del Prado ก็ต้องมาเตรียมตัวกันก่อน
ช่วงไหนที่ไปแล้วดี
ช่วงคริสมาสต์อีฟ ช่วงวันสิ้นปี และช่วงวัน Three Kings Day ที่ฉลองกันวันที่ 6 มกราคมของทุกปี ที่นี่จะลดเวลาการให้เข้าชมนะจ้ะ
ส่วนวันคริสมาสต์ วันปีใหม่ และวันที่ 1 พฤษภาคม จะปิดเลย แต่อย่าเพิ่งหมดกำลังใจกันไป ที่นี่ให้คุณเข้าฟรีได้ช่วงวันธรรมดา ระหว่าง 6 โมงเย็น ถึง 2 ทุ่ม ส่วนทุกวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ให้เข้าฟรีเหมือนกัน ช่วง 5 โมงเย็นถึง 1 ทุ่ม ใจดีสุดสุดกันไปเลยไหมล่ะ
เรามากะเวลาที่เราจะใช้ที่นี่่กัน
เราคงจะต้องถามคุณกันก่อนว่าเป็นอาร์ตตัวพ่อ ตัวแม่ขนาดไหน เพราะนั่นจะทำให้เวลาที่คุณควรใช้กับที่นี่แตกต่างกันไปเลย แต่เวลามาตรฐานที่คนอื่นใช้กันที่นี่ ก็อยู่ประมาณ 2-3 ชั่วโมงนะ แต่ก็อย่างว่า เวลาที่เราชื่นชมผลงานแต่ละชิ้น หรือชอบขิ้นไหนจริง ๆ เราก็ไม่อยากเร่งรีบอะไร ส่วนคนไหนเป็นขาเก็บงานดังต่าง ๆ อยากเห็นเฉย ๆ เดินผ่าน ๆ ชั่วโมงถึงชั่วโมงครึ่งก็น่าจะพอแล้วล่ะจ้า
ที่ Museo del Prado มีกฏการแต่งกายไหมนะ
จริงจริงก็ไม่มีนะ แต่เราแนะนำว่าใส่เสื้อผ้าสบาย ๆ จะดีกว่า เพราะแกลอรี่นี้น่ะใหญ่อยู่ กลัวเดินไปเดินมา จะไม่สบายตัวกัน เพราะการันตีความเดินเพลินของที่นี่เลยแหละ ฉะนั้นรองเท้าก็ควรเอาที่สบาย ๆ ด้วย เดี่ยวมาเมื่อยแล้วจะหาว่าเราไม่เตือน ถ้าคุณไปตอนหน้าหนาว หรือหน้าฝน ก็ไม่ต้องห่วง ที่นี่เขามีที่วางร่ม แขวนโค้ท และถุงเล็ก ๆ กับล็อกเกอร์ฟรี ให้คุณเลยนะ พร้อมไหมล่ะ
มากระซิบของที่ไม่ควรพลาดที่ Museo del Prado
ภาพวาดด้านมืดสะเทือนอารมณ์ ของ Goya (Goya’s dramatic Black Paintings)
ในช่วงศตวรรษที่ 19th ของสเปน เกิดการจราจลกับชาวฝรั่งเศส ระหว่างการบุกรุกของจักรพรรดินโปเลียน และกลุ่มผู้ต่อต้านถูกประหาร ภาพวาดด้านมืดสะเทือนอารมณ์ของ Goya จะตั้งอยู่ชั้นพื้นดิน ซึ่งภาพนี้จะบรรยายให้คุณได้เห็นช่วงโกลาหลของประวัติศาสตร์สเปน Goya เกิดที่ Fuendetodos, Aragon, Spain ในปี 1746 เป็นศิลปินที่แสดงภาพวาดผ่านโทนสีดำ และน้ำตาล ภาพวาดที่ชื่อ El Dos de Mayo และ El Tres de Mayo (1808) เป็นผลงานชิ้นสำคัญของสเปน และบนชั้นหนึ่ง คุณจะพบภาพวาดที่ชื่อ La Maja Vestida (The Clothed Maja) และถัดมาชื่อ La Maja Desnuda (The nude Maja) ซึ่งสองภาพนี้ ได้ชื่อว่าเป็นลูกรักของ Goya กันเลยทีเดียว
ละมุนแต่น่าประทับใจ กับผลงานของ Velázquez
นักวาดภาพสไตล์ Andalusian ที่ชื่อ Diego Velázquez เกิดในปี 1599 ใน Sevilla เรียกได้ว่าเป็นตัวพ่อท็อปสุดในวงการศิลปะสเปนยุคแรกเลยแหละ Velázquez แต่ก่อนวาดให้เหล่าราชวงศ์นะจ้ะ ในช่วงยุคต้น ๆ ของศตวรรษที่่ 17th หนึ่งในผลงานชิ้นใหญ่ไฟกระพริบของ Velázquez คือ Las Meninas นั่นเอง หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า La família de Felipe IV ซึ่งเป็นภาพละเอียดอ่อนของ King Felipe IV และครอบครัวของเขา อีกภาพดัง ชื่อ ‘The Surrender of Breda’ เป็นการบอกเล่าเรื่องราวขณะที่ชาวดัช Dutch ยก Breda ให้กับสเปน ซึ่งสี่เป็นกลยุทธ์หลักของการประสบความสำเร็จด้านศิลปะของ Velázquez
ผลงานชิ้นเอกแนว Flemish โดย Pieter Paul Rubens
Rubens เรียนมาจาก Antwerp, Netherlands ทางใต้ ซึ่งในยุคต้นศตวรรษที่ 17th ตอนนั้นยังเป็นพื้นที่ของสเปน Rubens ถูกเรียกไปต่อรอง จากสภาคอทาลิคเสปน และถูกแต่งตั้งให้เป็นคุณผู้ชายในบ้านของกษัตริย์ฟิลลิฟที่สี่ King Philip IV ซึ่งกษัตริย์ของสเปนก็ได้มีการซื้อขายภาพวาดต่าง ๆ ที่เป็นแนว Flemish จากศิลปินของเขา ในภาพวาด Saint George Battles the Dragon, Rubens ได้ใช้แสงและเงาสื่อถึงอารมณ์ เพื่อจับความเป็นตำนานเอาไว้ได้อย่างดี นักบุญ Christian Saint George นั่งบนม้าหลวง และไกวดาบเพื่อที่จะสู้กับมังกร นอกจากนั้นผลงานของ Ruben รวมกับ Jan Brueghel เหมือนเป็นแกลอรี่ศิลปะซ้อนในแกลอรี่ศิลปะเลยนะ
Also available in:
English
繁體中文
简体中文
日本語
한국어
Indonesia