Also available in:
English
繁體中文
日本語
ยุโรปช่างเป็นทวีปที่มีความหลากหลายและมีอะไรมากมายให้เราได้ดูนะคะ ข้อดีของการเที่ยวในยุโรปคือคุณสามารถเดินทางจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งได้โดยไม่ต้องนั่งเครื่องบินค่ะ! ถ้าคุณได้อ่านบทความของเราเกี่ยวกับสายรถไฟที่สวยที่สุดในยุโรปแล้วเคลิ้มไปตามเรา คุณต้องอยากหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีนั่งรถไฟแบบไม่จำกัดผ่านบัตร Eurail Pass ดังนั้นตามเรามาเลยค่ะ เพราะเราจะพาคุณไปทำความรู้จักเจ้าบัตรนี้ว่ามันคืออะไร ข้อดี ข้อเสียมีอะไรบ้าง และจะใช้ยังไงให้คุ้มที่สุดค่ะ!
บัตร Eurail Pass คืออะไร?
สรุปง่ายๆ คือบัตร Eurail Pass เป็นตั๋วเพียงใบเดียวที่อนุญาตให้ผู้อยู่อาศัยนอกสหภาพยุโรปสามารถเดินทางด้วยรถไฟได้ไม่จำกัดในรถไฟเกือบทุกสายในยุโรปค่ะ แต่ก็มีข้อยกเว้นและข้อจำกัดที่สำคัญบางอย่างเหมือนกันนะคะ แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะเดี๋ยวเราจะอธิบายแบบละเอียดด้านล่างค่ะ
This unlimited, almost-all encompassing ticket was first introduced in 1959 with only 13 participating countries. Today, it has grown much larger with some very exciting and important updates:
บัตรที่ครอบคลุมแบบแทบจะทั่วยุโรปใบนี้เปิดตัวครั้งแรกในปี 1959 โดยมีเพียง 13 ประเทศเท่านั้นที่เข้าร่วม แต่ทุกวันนี้บริเวณที่ครอบคลุมกว้างขึ้นอย่างมากและยังมีข้อมูลอัพเดทที่น่าสนใจและสำคัญที่คุณควรรู้ดังต่อไปนี้ค่ะ:
- สำหรับปี 2019 บัตร Eurail Pass ครอบคลุมถึง 31 ประเทศด้วยกันค่ะ! สหราชอาณาจักรก็เข้าร่วมด้วย ดังนั้นหมายความว่าตอนนี้บัตร Eurail Pass สามารถใช้ได้กับการเดินทางด้วย EuroStar จากลอนดอนถึงปารีส นอกจากนี้ก็ยังมีประเทศลิทัวเนียและมาซิโดเนียเข้าร่วมเพิ่มอีกด้วยค่ะ
- บัตร Eurail Pass ยังคงไม่รวมยูเครน เบลารุส รัสเซีย เอสโตเนีย ลัตเวีย และแอลเบเนียค่ะ
- คุณสามารถใช้บัตร Eurail Pass เพื่อขึ้นเรือเฟอร์รี่ไปที่เกาะต่างๆของกรีซได้ค่ะ
- รถไฟใต้ดินและรถเมล์จะไม่รวมอยู่ในบัตร Eurail Pass นะคะ
ประเภทต่างๆของบัตร Eurail Pass
หลักๆแล้ว Eurail Pass มี 2 ประเภท (1) ประเภทเดินทางแบบต่อเนื่องและ (2) ประเภทที่ยืดหยุ่นกับวันเดินทาง บัตรประเภทแรก คุณสามารถเดินทางได้ต่อเนื่องทุกวันแบบไม่จำกัดระหว่างวันที่คุณเริ่มใช้บัตรจนถึงวันสุดท้ายค่ะ ในขณะที่บัตรแบบที่สองนั้นจะให้คุณเดินทางได้ไม่ จำกัด ภายใน 24 ชั่วโมงของแต่ละวันที่คุณเลือกใช้บัตรค่ะ
ภาพด้านล่างจะทำให้คุณเห็นภาพดีความแตกต่างได้ดีมากขึ้นของการใช้บัตรแบบต่อเนื่อง 15 วันและแบบยืดหยุ่น 15 วัน สามารถคลิกที่นี่เพื่อดูบัตรผ่านประเภทต่างๆทั้งหมดได้ค่ะ
นอกจากนี้ยังมีบัตรประเภท One Country Pass ที่ให้คุณเดินทางด้วยรถไฟแบบได้ไม่จำกัดทั่วประเทศนั้นๆ บัตรนี้จะเหมาะมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆภายในประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นส่วนใหญ่ค่ะ สามารถคลิกที่นี่เพื่อดูได้ว่าประเทศไหนในยุโรปที่มีบัตรชนิดนี้บ้างค่ะ
ข้อดีของบัตร Eurail Pass
1.บัตรนี้เหมาะที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ค่อยชอบวางแผน เพราะคุณสามารถกระโดดขึ้นลงรถไฟสายไหน ที่ใดก็ได้ที่คุณนึกอยากได้ทุกเมื่อค่ะ
2.บัตรนี้จะเหมาะมากกว่าสำหรับคนที่ตั้งใจจะมาเที่ยวในยุโรปเป็นเวลานานๆ เพราะบัตรแบบเดินทางต่อเนื่องที่สั้นที่สุดคือ 15 วันหรือแบบยืดหยุ่นคือ 3 วันแยกกันภายในหนึ่งเดือนค่ะ
3.บัตร Eurail Pass จะทำหน้าที่เหมือนเป็นประกันค่าตั๋วให้คุณไปในตัว เพราะถ้าคุณพลาดรถไฟที่จองไว้แล้วคุณสามารถขึ้นรถไฟขบวนต่อไปได้โดยไม่ต้องกังวลเลยค่ะ!
4. และยังมีบัตรสำหรับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 28 ปี (Youth Rail Pass) หรือสำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 59 ปี (Senior Rail Pass) ที่ราคาคุ้มมากค่ะ
5. สำหรับครอบครัวที่มีเด็กยิ่งดีขึ้นไปอีกค่ะ เพราะเด็กอายุต่ำกว่า 12 บัตรนี้จะฟรีค่ะ!
ข้อเสียของบัตร Eurail Pass
เวลาได้ยิน “การเดินทางโดยรถไฟได้ไม่จำกัด ” ฟังดูแล้วเหมือนกำลังฝันไปและดูแล้วเป็นข้อเสนอที่คุณไม่ควรพลาดใช่ไหมคะ แต่จริงๆก็ยังมีข้อจำกัดบางอย่างที่ทำให้ Eurail Pass อาจไม่เวิร์คไปเสียหมดสำหรับคุณค่ะ
1.บัตรนี้ราคาค่อนข้างแพงโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับการซื้อตั๋วแบบเที่ยวต่อเที่ยว อย่างเช่นบัตรที่ถูกที่สุดคือราคาประมาณ 217 ยูโร ซึ่งคุณสามารถเดินทางได้ 3 วันภายในหนึ่งเดือน แม้ว่าคุณจะสามารถนั่งรถไฟได้ไม่จำกัดใน 3 วันนั้นๆ แต่คิดดูแล้วถ้าคุณมีแพลนที่แน่นอนว่าจะไปที่ไหน คุณสามารถประหยัดเงินได้ด้วยการจองตั๋วแบบเที่ยวต่อเที่ยวค่ะ
- ตั๋วชั้นสองแบบเที่ยวต่อเที่ยวระหว่างเมืองบางทีอาจจะมีราคาถูกเพียง 20 ยูโรค่ะ! แค่คุณต้องจองล่วงหน้าเพื่อให้ได้ราคาที่ดีที่สุดนะคะ
2.แม้ว่าคุณจะมีบัตร Eurail Pass แต่คุณก็ยังต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการจองสำหรับรถไฟบางขบวนนะคะ โดยค่าธรรมเนียมการจองราคาประมาณ 4 ยูโรถึง 30 ยูโรเลยทีเดียวค่ะสำหรับสายรถไฟที่ไปฝรั่งเศส ถ้าคุณจะนั่งรถไฟหลายสายที่ต้องมีเสียค่าธรรมเนียมการจองที่เพิ่มเติม รวมๆแล้วราคาอาจจะแพงเกินไปก็ได้ค่ะ
3.บัตร Eurail Pass จะไม่ค่อยคุ้มสำหรับทริประยะทางสั้นๆค่ะ ทุกวันนี้บริษัทรถไฟในยุโรปมีวิธีตั้งราคาตั๋วของพวกเขาแบบเดียวกับสายการบินเลยทีเดียว ดังนั้นถ้าคุณวางแผนการเดินทางล่วงหน้าหน่อยสัก 2 เดือน คุณก็สามารถซื้อตั๋วรถไฟสำหรับเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งได้ถูกเพียง 20 ยูโรเท่านั้นค่ะ!
4.ท้ายที่สุดเหตุผลที่ทุกคนทราบดีก็คือถ้าคุณไม่ได้วางแผนที่จะขึ้นรถไฟมากกว่า 1 ขบวนต่อวันก็ไม่ควรจะซื้อบัตรนี้โดเฉพาะสำหรับคนที่สนใจจะซื้อบัตรประเภทยืดหยุ่นค่ะ
วิธีใช้บัตร Eurail Pass
การใช้บัตร Eurail Pass นั้นค่อนข้างง่าย แต่ก็มีขั้นตอนสำคัญบางอย่างที่คุณต้องห้ามลืม:
– คุณจะต้องไปยืนยันการใช้บัตร Eurail Pass เป็นครั้งแรก โดยคุณสามารถทำได้ที่สถานีรถไฟหลักแห่งใดแห่งหนึ่งใน 31 ประเทศที่เข้าร่วมบัตรนี้ พนักงานจะใส่วันที่เริ่มต้นใช้บัตรของคุณซึ่งมันจะกำหนดระยะเวลาที่บัตรของคุณจะใช้ได้ค่ะ
– บัตร Eurail Pass จะทำหน้าที่เหมือนบันทึกการเดินทางของคุณ ดังนั้นคุณจะต้องเขียนวันที่และเวลาของรถไฟแต่ละขบวนที่คุณนั่งลงในบัตร ถ้าคุณลืมทำก็จะเสี่ยงกับการโดนปรับนะคะ!
– สำหรับการนั่งรถไฟข้ามคืนจะกินเวลา 1 วันของบัตรคุณเท่านั้น แต่ต้องให้แน่ใจว่าวันที่คุณมาถึงจะต้องอยู่ภายในระยะเวลาที่บัตรของคุณยังใช้ได้นะคะ!
– สำหรับตารางเดินทางของรถไฟทั่วยุโรปเราขอแนะนำให้ดาวน์โหลดแอพ Railplanner ซึ่งแอพนี้เจ๋งมากเพราะมันยังใช้ได้แม้ออฟไลน์อีกด้วย! แถมคุณยังสามารถจองตั๋วรถไฟบางสายได้ผ่านแอพนี้ค่ะ
เคล็ดลับฉบับ INSIDR
ถ้าคุณกำลังมองหาการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นในยุโรป บัตร Eurail Pass ก็จะเป็นผู้ช่วยในการเดินทางที่เริ่ดมาก! เพียงแค่ต้องแน่ใจว่าคุณชั่งใจระหว่างข้อดีข้อเสียเป็นอย่างดีแล้วท่านั้นค่ะ!
หลักๆแล้วสิ่งที่คุณจะได้จากบัตร Eurail Pass คือความสะดวกสบาย ซึ่งจะเหมาะมากเวลาที่เปลี่ยนแผนการเดินทางแบบกะทันหันหรือเมื่อมีเหตุการณ์ที่คุณคาดไม่ถึงเช่นเวลารถไฟหยุดประท้วง อย่างไรก็ตามถ้าคุณเป็นนักวางแผนล่วงหน้าที่ดีและอยากได้ตั๋วรถไฟราคาถูกแล้วล่ะก็ คุณก็ไม่จำเป็นต้องมีบัตร Eurail Pass เลยก็ได้ค่ะ
Also available in:
English
繁體中文
日本語